เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศอังกฤษที่ตั้งอยู่ในเมืองเชฟฟีลด์ เซาท์ยอร์กเชียร์ ปัจจุบันเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ และเป็นสโมสรแรกที่มีชื่อต่อท้ายด้วยคำว่า “ยูไนเต็ด” และยังมีฉายาว่า “ดาบคู่” (The Blades) อีกด้วย มีสนามเหย้าชื่อว่า บรามอลล์เลน ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังใช้อยู่
ผลงานในช่วงที่ผ่านมาทีมดาบคู่ได้สร้างชื่อด้วยการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกในปี ค.ศ.2006 แต่อยู่ได้แค่เพียงปีเดียวก็ตกชั้นไปอีกครั้ง พวกเขาสามารถเข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้ใน ค.ศ. 2009 แต่จากความไว้วางใจในตัวผู้เล่นที่ยืมมาประกอบกับการขายดาวดังไป ทำให้ทีมต้องตกชั้นไปสู่ลีกวันในฤดูกาล 2011–201
ประวัติความเป็นมาของทีม
ทีมสโมสรเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ.1889ที่โรงแรมอเดลฟี ในเมืองเชฟฟีลด์ (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ครูซิเบิ้ล Crucible Theatre) โดยผู้ก่อตั้งคือ เซอร์ ชาร์ลส์ เคร็ก ประธานสโมสรคริกเก็ต เชฟฟีลด์ เว้นส์เดย์ ซึ่งเคยใช้สนามบรามอลล์ เลนมาก่อน ก่อนจะย้ายไปที่โอลีฟ โกรฟ ท่านเซอร์จึงต้องหาทีมใหม่มาเช่าสนามแทน ซึ่งก็คือเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดนี่เอง
ในช่วง 40 ปีแรกของสโมสรนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของทีม ระหว่างปี 1895-1935 เมื่อพวกเขาในแชมป์ลีกสูงสุดในฤดูกาล 1897-98 รองแชมป์ในปี 1896-97 และ 1899-1900 ชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1899, 1902 ,1915 และ 1925 รองชนะเลิศปี 1901 และปี 1936 จากปี 1925 เป็นต้นมา พวกเขาก็ไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์อีกเลย
และพวกเขาก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปถึงรอบรองชนะเลิศบอลถ้วยในประเทศทั้งสองถ้วยและยังได้เตะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพอีกในฤดูกาล 2002-2003 แต่ก็ไม่เคยได้รับรางวัลใด ๆ เลย
ช่วงปี ค.ศ.1975 ถึง 1981 ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดจากที่เคยจบอันดับ 6 ดิวิชัน 1 ในฤดูกาล 1974-75 ปีต่อมาพวกเขากลับตกชั้นสู่ดิวิชัน 2 และอีก 3 ปีก็ตกชั้นอีกสู่ดิวิชัน 3 เท่านั้นยังไม่พอในปี 1981 พวกเขาก็ตกชั้นสู่ดิวิชัน 4 (ซึ่งเทียบเท่า ลีก ทูในปัจจุบัน) แต่อยู่ได้แค่ปีเดียวพวกเขาก็กลับสู่ดิวิชัน 3 และ แค่ 2 ปีก็เลื่อนชั้นกลับสู่ดิวิชัน 2 อีกครั้ง และพวกเขาก็ได้ตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 อีกครั้งในปี 1988
ในปี ค.ศ.1990 ทางสโมสรได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่ชื่อ เดฟ บาสเซตต์ เขาก็ทำให้เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด กลับสู่ยุคที่ถือว่าประสบความสำเร็จอีกครั้ง หลังจาก 14 ปีที่ตกชั้นไป คราวนี้พวกเขาอยู่ได้ถึง 4 ฤดูกาล (เป็นหนึ่งในทีมที่อยู่ในยุคก่อตั้งพรีเมียร์ ลีก) และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพในฤดูกาล 1992-93 ก่อนตกชั้นไปในปี 1994
ในช่วงเวลา 12 ปี พวกเขาไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุด ซึ่งช่วงวลานนั้นพวกเขาเกือบที่จะได้เลื่อนชั้นอยู่หลายครั้งเช่น เข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นในปี 1997 ซึ่งคุมโดย โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ผู้รับตำแหน่งต่อจากเดฟ บาสเซตต์ อีกครั้งในปี 1998 โดยผู้จัดการทีมชั่วคราว สตีฟ ทอมป์สัน
และในปีถัดมาพวกเขาได้นีล วอร์น็อกเข้ามาคุม แต่กลับสู่สภาวะที่ยากลำบากอีกครั้งเมื่อจบอันดับเกือบท้ายตารางและสถานการณ์ทางการเงินที่เข้าขั้นวิกฤตจึงไม่สามารถที่จะหาผู้เล่นมาเสริมทีมได้ตามที่ต้องการ เมื่อถึงฤดูกาล 2002-03 ก็เป็นอีกฤดูกาลที่น่าจดจำของสโมสรเมื่อเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลถ้วยภายในประเทศทั้งสองรายการ และได้เพลย์ออฟ เลื่อนชั้น แต่ก็น่าเสียดาย ที่พลาดทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม นีล วอร์น็อกก็สามารถนำทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จในปี 2006 เมื่อพาทีมจบตำแหน่งรองชนะเลิศในลีกแชมเปี้ยนชิพ แต่ก็อยู่ได้เพียงปีเดียวก็ต้องตกชั้นไป ท่ามกลางการโต้เถียงที่รุนแรงกับ คาร์ลอส เตเบซ หลังจากนั้นเขาก็ลาออก
พวกเขาประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกครั้งในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยค่าเหนื่อยที่ไม่เหมาะสมกับระดับฝีเท้าของนักเตะประกอบกับช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสั้นเกินไป ในปี 2009 เควิน แบล็กเวลล์ พาทีมเข้าถึงรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ทีมเข้าสู่ยุคมืดมนอีกครั้ง ฤดูกาล 2010-11 ถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปถึง 3 คน สุดท้ายก็ต้องตกชั้น ซึ่งคุมโดยมิกกี้ อดัมส์ นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องตกชั้นสู่ลีกวันเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี และเพียง 5 ปีเท่านั้นหลังจากที่อยู่ในพรีเมียร์ลีก
ตราสัญลักษณ์
สนามเหย้าของทีม
บรามอลล์เลนเป็นสนามกีฬาที่เก่าแก่อันดับสองของโลกที่ยังคงใช้งานอยู่ ซึ่งเป็นรองเพียงฟีลด์มิลล์ของแมนส์ฟีลด์ทาวน์ เป็นสนามกีฬาฟุตบอลที่ตั้งอยู่ที่เมืองเชฟฟีลด์ในประเทศอังกฤษ
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
เบอร์เสื้อ | นักเตะ | ตำแหน่ง | สัญชาติ | อายุ |
ผู้รักษาประตู | ||||
18 | เวส โฟเดอริงแฮม | ผู้รักษาประตู | อังกฤษ | 30 |
5 | ไซม่อน มัวร์ | ผู้รักษาประตู | อังกฤษ | 30 |
21 | มิเชล เฟอร์ริปส์ | ผู้รักษาประตู | เนเธอร์แลนด์ | 24 |
1 | อารอน แรมส์เดล | ผู้รักษาประตู | อังกฤษ | 22 |
– | เจค อีสต์วูด | ผู้รักษาประตู | อังกฤษ | 24 |
กองหลัง | ||||
19 | แจ็ค โรบินสัน | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 27 |
13 | แม็กซ์ โลว์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 23 |
3 | เอ็นดา สตีเว่นส์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | ไอร์แลนด์ | 30 |
22 | อีธาน อัมปาดู | เซ็นเตอร์แบ็ค | เวลส์ | 20 |
6 | คริส บาแชม | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 32 |
29 | คีน ไบรอัน | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 24 |
15 | ฟิล จากีลก้า | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 38 |
12 | จอห์น เอแกน | เซ็นเตอร์แบ็ค | ไอร์แลนด์ | 38 |
5 | แจ๊ค โอคอนเนลล์ | เซ็นเตอร์แบ็ค | อังกฤษ | 26 |
2 | จอร์จ บัลด็อค | แบ็คขวา | อังกฤษ | 27 |
20 | เจย์เดน โบเกิล | แบ็คขวา | อังกฤษ | 20 |
กองกลาง | ||||
20 | แจ็ค ร็อดเวลล์ | มิดฟิลด์ตัวรับ | อังกฤษ | 29 |
8 | ซานเดอร์ แบร์เก้ | มิดฟิลด์ตัวรับ | นอร์เวย์ | 22 |
23 | เบน ออสบอร์น | มิดฟิลด์ด้านซ้าย | อังกฤษ | 26 |
4 | จอห์น เฟล็ค | มิดฟิลด์ตัวกลาง | สก๊อตแลนด์ | 29 |
7 | จอห์น ลันด์สตรัม | มิดฟิลด์ตัวกลาง | อังกฤษ | 26 |
16 | โอลิเวอร์ นอร์วู้ด | มิดฟิลด์ตัวกลาง | ไอร์แลนด์เหนือ | 29 |
14 | โอลิเวอร์ เบิร์ก | ปีกขวา | สก๊อตแลนด์ | 23 |
กองหน้า | ||||
17 | เดวิด แม็คโกลดริค | กองหน้าตัวเป้า | ไอร์แลนด์ | 33 |
9 | โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ | กองหน้าตัวเป้า | สก๊อตแลนด์ | 24 |
11 | ลีส มูสเซ็ต | กองหน้าตัวเป้า | ฝรั่งเศส | 25 |
24 | ไรอัน บริวสเตอร์ | กองหน้าตัวเป้า | อังกฤษ | 20 |
10 | บิลลี่ ชาร์ป | กองหน้าตัวเป้า | อังกฤษ | 35 |